ท่ารําพระศิวะ 108 ท่า คืออะไร และมีที่มาจากไหน

พูดถึงความเชื่อในไทยต้องยอมรับว่ามีการผสมปนเปกันไปหมดทั้งของไทยดั้งเดิม จนถึงกลุ่มที่รับอิทธิพลมาจากประเทศอื่นไม่ว่าจะฝั่งตะวันตก ตะวันออก ไทยเราปรับตามได้หมด หนึ่งในเทพเจ้าตามความเชื่อที่มีคนติดตามอย่างมากก็คือ พระศิวะ การสักการะบูชานอกจากจะเป็นสิ่งของตามความเชื่อ ยังมีการสร้างท่ารำพระศิว 108 ท่าด้วย สิ่งนี้มันคืออะไรมาจากที่ไหน เรามาหาคำตอบกัน

ตำนานท่ารำพระศิวะ 108 ท่า

พระศิวะถือว่าเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งที่มีฤทธิ์มาก และมีประวัติมากมาย ประวัติเรื่องหนึ่งที่มีผลสืบต่อมาจนถึงปัจจุบันเลยก็คือตำนานท่ารำพระศิวะ 108 ท่า เรื่องราวของตำนานเล่าถึงฤาษีกลุ่มหนึ่งที่ประพฤติตนนอกรีต ฝ่าฝืนเทวบัญชาทำให้เกิดเหตุอาเพศมากมาย ร้อนจนถึงพระศิวะต้องลงมาปราบฤาษีเหล่านี้ ในครานั้น พระศิวะทรงชักชวนพระนารายณ์เสด็จตามลงมาที่โลกมนุษย์ด้วยกันเพื่อปราบปรามฤาษีเหล่านั้น เมื่อปราบเสียสิ้นฤทธิ์แล้ว พระศิวะทรงฟ้อนรำขึ้น ขณะที่ฟ้อนรำอยู่นั้น ได้มียักษตนหนึ่ง มาช่วยพวกฤาษีเหล่านั้นเอาไว้ นั่นทำให้พระศิวะต้องปราบยักษ์ตัวนั้นด้วยการเหยียบหน้าอกไว้ จากนั้นก็รำต่อเนื่องจนครบ เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เกิดการเทวรูปที่ชื่อว่า ปางนาฏราช (ปางนี้จะมีท่าทางยืนขาเดียวขาอีกข้างหนึ่งยกสูงเหมือนจะขัดกัน แขนขวาจะตั้งมือฉากขึ้นแบบมือ ส่วนแขนซ้าย จะเอามาต่อกับแขนขวาแต่คว่ำมือลง) ที่เป็นต้นกำเนิดของท่วงท่าการร่ายรำในเวลาต่อมา

หลังจากทำภารกิจเสร็จสิ้น พระศิวะกลับเข้าไกรลาศ และ พระนารายณ์ทรงกลับเกษียรสมุทร ต่อมาพระยาอนันตนาคราชได้ติดตามพระเจ้าทั้งสองไปในภารกิจปราบปรามพวกฤาษีด้วย ท่านทรงประทับใจการร่ายรำของพระศิวะมาก อยากจะชมการร่ายรำดังกล่าวอีก พระนารายณ์จึงนัดกับพระศิวะไปฟ้อนรำให้ดูอีกครั้งบนโลกมนุษย์ เชื่อกันว่าการรำคราวนี้ ตั้งอยู่ที่ ตำบลจิดรัมบรัม (ทางตอนใต้ของประเทศอินเดียในปัจจุบัน) พระศิวะได้ฟ้อนรำอีกครั้งอย่างงดงามถึง 108 ท่า จากความงดงามในท่วงท่าร่ายรำดังกล่าว ทำให้มนุษย์สร้างเทวาลัยที่เมืองนี้เพื่อบูชาต่อพระศิวะ อีกทั้งยังเป็นการแกะสลักท่าร่ายรำเอาไว้ครบถ้วน 108 ท่า ไม่เท่านั้นทั้ง 108 ท่านี้ได้กลายเป็นต้นกำเนิดของคัมภีร์นาฏยศาสตร์ ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบของการร่ายรำทุกแบบมาจนถึงทุกวันนี้ด้วย

ความเชื่ออื่น

ไม่เพียงแค่ความสวยงามเท่านั้น บางครั้งเรื่องนี้ยังส่งผลต่อความเชื่อในการสร้างโลก และความเป็นไปของโลกด้วยเช่นกันในอินเดียเชื่อกันว่า การร่ายรำของพระศิวะนั้นมีผลต่อการทำให้เกิดผลดี และผลเสียต่อโลกได้ด้วย ดังนั้นชาวอินเดียจึงมีความเชื่อให้พระศิวะทรงร่ายรำ 108 ท่า ในจังหวะที่พอดี ในช่วงที่ท่านจะอารมณ์ดีด้วย จะทำให้โลกสงบสุขร่มเย็น มีความสุขทั่วกันทุกคน แต่ถ้าหากพระศิวะรำด้วยอารมณ์โกรธกริ้วทุกอย่างก็จะตรงข้ามกัน

การร่ายรำท 108 ท่า

ท่าร่ายรำทั้ง 108 ท่าของ พระศิวะนั้น จุดเด่นก็คือ ทุกท่าในการรำจะต้องใช้อวัยวะทุกส่วนในร่างกายไม่ว่าจะเป็น แขน ขา ข้อมือ เท้า เอว อก สะโพก ไปจนถึงกล้ามเนื้อรอบดวงตา ก็ต้องใช้ด้วย ไม่เท่านั้นการร่ายรำของพระศิวะนั้น ยังมีการร่ายรำที่อ่อนช้อย สวยงาม ไปจนถึงความดุดันน่าเกรงขามด้วยเช่นกัน จึงไม่แปลกที่ท่ารำ 108 ท่าจะกลายเป็นท่ารำแม่บทของอินเดีย และเผยแพร่ผ่านมาหลายประเทศจนถึงบ้านเราในปัจจุบัน